![]() ![]() นายกสมาคม
พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง เกี่ยวกับสมาคม +
สถิติสมาคมตำรวจ
|
ประวัติสมาคมตำรวจ
สมาคมตำรวจ
การก่อตั้งสมาคมตำรวจ เป็นความคิดและความพยายามต่อเนื่องกันมายาวนาน เริ่มตั้งแต่การรวมกลุ่มระหว่างนายตำรวจที่อยากจะพบปะพูดคุยและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เริ่มแรกเท่าที่จำได้คือประมาณ พ.ศ.๒๕๑๐-๒๕๑๑ หลังจากผู้เขียนสำเร็จปริญญาโททางรัฐประศาสนศาสตร์รับราชการเป็นผู้ช่วยเลขานุการอยู่ที่โรงเรียนสืบสวน กรมตำรวจ ได้มีนายตำรวจที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นใกล้เคียงกันมาพบและขอให้ช่วยแนะแนวในการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อในคณะที่รัฐประศาสนศาสตร์ ผู้เขียนเลยเปิดแนะแนวการสอบคัดเลือกขึ้น โดยตกลงกันว่าผู้แนะแนวจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ใครสอบได้จะต้องกลับมาเป็นผู้แนะแนวให้กับผู้ประสงค์จะเข้าศึกษาต่อในรุ่นถัดไปรับช่วงกันไปเป็นรุ่นๆ เมื่อมีนายตำรวจสอบคัดเลือกเข้าศึกษาก็มีการเลี้ยงแสดงความยินดีและถือโอกาสเลี้ยงตอบแทนผู้แนะแนวไปด้วย
ในครั้งแรกผู้เขียนได้ให้คำแนะนำกับ พล.ต.ต.ปิติ ประจักษ์จิตต์ และ พล.ต.ต.โยธิน มัธยมนันทน์ ซึ่งสามารถสอบเข้าไปศึกษาได้ใน ปี พ.ศ.๒๕๑๑ ในปีต่อมามีผู้สอบเข้าเรียนได้อีก ๒ คน คือ พล.ต.ท.สมชาย ประภัสภักดี กับ พล.ต.ต.อชิระ สมแก้ว การจัดเลี้ยงก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เมื่อจัดเลี้ยงจะมีการเสนอบทความในเรื่องแนวความคิดในการพัฒนากรมตำรวจด้วย หลังจากนั้นก็จะร่วมกันจัดทำโครงการและผลักดันให้ได้ผล ซึ่งก็ทำให้เริ่มมีความคิดเห็นไม่ค่อยจะตรงกับความคิดของผู้บริหารงานกรมตำรวจ เพราะแนวความคิดทางวิชาการที่เสนอเป็นความคิดอิสระ แต่ผู้บริหารมีข้อจำกัดคือต้องสนองนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาล รวมทั้งต้องระมัดระวังไม่ให้มีความเห็นขัดแย้งกับความคิดของทหาร ซึ่งใช้อำนาจปกครองประเทศอยู่ในขณะนั้น แต่ก็มีนายตำรวจที่มีหัวก้าวหน้าหลายนายพยายามช่วยกันผลักดันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการใช้พลังกลุ่มมี พ.ต.อ.อนวัชช ปักษานนท์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ของผู้เขียนเป็นตัวตั้งตัวตีอย่างแข็งขัน จนถึงขนาดมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในขณะนั้นหลายนายหมายหัวไว้ แล้วท่านก็ไม่เจริญก้าวหน้าในการรับราชการจริงๆ สู้พวกประจบนายไม่ได้
หลังจากการประชุมประจำปีที่โรงเรียนเอเซียในปี พ.ศ.๒๕๑๙ พล.ต.ท.สืบ พงศ์สุวรรณ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการศึกษา ได้แจ้งให้ทราบว่า ท่าน อ.ตร. พล.ต.อ.มนต์ชัย พันธ์คงชื่น ไม่อยากจะให้จัดประชุมเพราะไม่อยากจะทำให้เกิดความยุ่งยาก และทำให้ผู้บังคับบัญชาลำบากใจ การประชุมทางวิชาการประจำปีจึงต้องยกเลิก แต่ผลของการดำเนินการในช่วงระยะเวลานั้น ทำให้มีการขยายกองบัญชาการตำรวจภูธร ซึ่งมีอยู่กองบัญชาการเดียวขึ้นเป็น ๔ กองบัญชาการ อนุโลมตามเขตพื้นที่ของกองทัพภาค มีแนวความคิดที่จะบริหารงานโดยใช้แผนงานและมีการรวมกลุ่มกันต่อสู้เรื่องการโอนอำนาจการสอบสวนคดีอาญาในส่วนภูมิภาค จัดตั้งกองกำลังพลแยกออกมาจากสำนักงานเลขานุการกรม ร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนนายร้อยตำรวจให้นักเรียนนายร้อยตำรวจที่สำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาตรี จัดตั้งกองบังคับการตำรวจภูธรขึ้น ๑๒ ภาค มีการจัดเตรียมขยายงานเพื่อตั้งกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในเวลาต่อมา
คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติได้พิจารณาอนุมัติให้จัดตั้งสมาคมตำรวจได้ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๔๐ และนายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร ได้รับจดทะเบียน เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๔๐ ได้ทะเบียนเลขที่ จ.๓๗๖๔/๒๕๔๐ ในครั้งแรกสมาคมตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ ๘๐๓ จุฬาลงกรณ์ ซอย ๒ ถนนพระราม ๑ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ๑๐๓๓๐ โดยผู้เขียนไปขอเช่าอาคารพาณิชของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในราคาเดือนละ ๓๐,๐๐๐ บาท ต่อมาเพื่อจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายของสมาคมคณะกรรมการบริหารได้มีมติให้ขอใช้พื้นที่อาคารสโมสรตำรวจ เลขที่ ๘๙ หมู่ ๓ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐ เป็นที่ตั้ง ซึ่งกรมตำรวจได้อนุญาตให้ตามขอ
|